แข้งสงขลาร่ำไห้  เสาหลักจากไปไม่กลับ

เป็นข่าวที่สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการลูกหนังของไทยเป็นอย่างยิ่ง  เนื่องด้วย นายประพร เอกอุรุ ประธานสโมสรฟุตบอลสงขลายูไนเต็ด ทีมในการแข่งขันศึกเอ็ม 150 แชมเปียนชิพ  ได้เกิดอาการช็อกหมดสติกะทันหัน  ที่บ้านพักในเมืองสงขลา ญาติจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลสงขลา แพทย์รีบนำตัวเข้ารักษาที่ห้องไอซียู พร้อมระดมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้

นายประพร ได้สิ้นใจอย่างสงบด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ณ โรงพยาบาลสงขลา เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา เมื่อล่าสุดได้ศึกษาเพิ่มเติมเพื่อนำความรู้มาใช้การบริหารงาน และได้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากมหวิทยาลัยรามคำแหงอีกด้วย

นายประพร เกิด และโต ที่สงขลา ได้ร่ำเรียนจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาการจัดการทั่วไป จากวิทยาลัยครูสงขลา หรือราชภัฏสงขลา ในปัจจุบัน

นายประพร ถือได้ว่าเป็นเสาหลักของสโมสรฟุตบอลสงขลายูไนเต็ด เนื่องจากมีช่วงนึงที่ทีม สงขลายูไนเต็ด ประกาศจะไม่ทำทีมต่อ  ทำให้มีแฟนบอลจำนวนมาก ได้ไปขอให้นายประพร มาช่วยทำทีมต่อได้ไหม นายประพร ก็ได้ตบปากรับคำ และได้ไปรวบรวมสมัครพรรคพวก เพื่อระดมทุนมาทำทีมสงขลายูไนเต็ดต่อในฤดูกาล2560 และรับหน้าทีเป็นประธานสโมสรเอง นายประพร ได้เกริ่นกับคนใกล้ชิด ว่าสนใจสนามเทศบาลนครสงขลา และอยากจะพัฒนาทีมสงขลายูไนเต็ด ให้เป็นทีมชันนำของประเทศให้ได้  นายประพร ได้สนับสนุนทุกเรื่องที่เกี่ยวกับกีฬาให้กับเยาวชนภายในจังหวัดสงขลามาโดยตลอด

ทางทีมงานขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว เอกอุรุ มา ณ ที่นี้ด้วย

ไอดอล ของตำนาน นายด่านอิตาลี

ตำนาน คือ คนที่สร้างสิ่งที่หน้าจดจำให้ให้กับตัวเขาเอง ที่ใคร ๆ ต่างต้องเล่าสืบต่อกันแบบรุ่นต่อรุ่นจานลุยจิ บุฟฟอน นายทวานมือกาว แห่งทีมชาติอิตาลี  ได้เล่าถึงช่วงชีวิตในวัยเด็กและ ช่วงเวลาที่เขาตัดสินใจ เลือกเล่นฟุตบอลในตำแหน่อง ผู้รักษาประตู

บุฟฟอน ได้รับการยกย่อให้เป็น ตำนานผู้รักษาประตูของทีมชาติอิตาลี แล้วถ้าคนระดับตำนาน ได้คน ๆ นึงแล้วดำเนินรอยตามคน ๆ นั้นจนตัวเองประสบความสำเร็จ และได้รับยองให้เป็นตำนาน เราควรจะเรียกคน ๆนั้นว่า อะไรดี ? ตำนานของตำนาน ดีไม๋

บุฟฟอน ได้เล่าว่า “ สมัยที่ผมยังเด็ก ๆ ผมเห็น โธมัส เอ็นโคโน ผู้รักษาประตูแคเมอรูน เล่นในเวิลด์คัพปี 1990 ถ้าไม่นับอิตาลี แคเมอรูนก็เป็นทีมในดวงใจผม ผมชอบในการทำหน้าของ โธมัส เอ็นโคโน ผมเลยตัดสินใจเล่นฟุตบอลในตำแหน่งผู้รักษาประตู และผมก็ดำเนินรอยตาม เขาถือว่าเป็นตำนานในชีวิตผม ตอนเวิลด์คัพปี 1990 ที่อิตาลี ผมจำได้ ในเกมแรก ที่อาร์เจนตินา พบกับ แคเมอรูน และแคเมอรูนเป็นฝ่ายชนะ ทำให้ตอนนั้น ผมนั้นยิ่งอยากเป็นผู้รักษาประตูมากขึ้น ”

จานลุยจิ บุฟฟอน ตำนานผู้รักษาประตู ของทีมชาติอิตาลี ถึงแม้ว่าเขาจะอายุย่างเข้าวัย 39 ซึ่งเมื่อสมัยรุ่น ๆ ได้ป้องกันประตู โชว์ฝีมือได้ดีมาอย่างสม่ำเสมอ ตลอดที่อยู่บนเส้นทางค้าแข้ง  ด้วยเหตุผลนี้ จึงได้รับการยกย่องให้เป็น ตำนานผู้รักษาประตูที่ดีที่สุด เท่าที่ทีมชาติอิตาลีเคยมามา

ถ้าเด็กชาย บุฟฟอน ไม่ได้เห็นตัวอย่างที่ดีจาก เอ็นโคโน ทีมชาติอิตาลี คงไม่มีผู้รักาประตูระดับตำนานไว้คุยอวดทีมชาติอื่น ๆ แน่นนอน

ดางยิง ต่อเตียงใหม่…เนย์มาร์ หวนคืนดีหวานใจมาร์เกซีน

ดางยิง เนย์มาร์ หัวหอกกองหน้าสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ส่อแววว่าจะคืนดีกับ มาร์เกซีน อดีตแฟนสาวหวานใจของเขา หลังจากทั้งคู่จูบกันแบบดูดดื่ม แถมยังตัวติดกันแทบจะตลอดเวลาตอนไปร่วมงานวิวาห์งานหนึ่ง

เนย์มาร์ แข้งดังที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกของทีมเปแอสเช  ทีมมหาเศรษฐีแห่งศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส มีแววเหมือนจะกลับไปคบกับ มาร์เกซีน อดีตหวานใจของเขา หลังจากทั้งคู่จูบกันระหว่างไปร่วมงานแต่งงาน

โดยที่ เนย์มาร์ กับ มาร์เกซีน เคยมีความรักด้วยกันที่หวานชื่นหลังจากเริ่มปลูกต้นรักกันในปี 2013 ถึงแม้ว่าจะเลิกกันไปหนหนึ่งเมื่อปี 2014 แต่พวกเขาก็กลับมาคืนดีกันเมื่อปีก่อน อย่างไรก็ตามทั้งคู่ก็ตัดสินใจแยกทางกันอีกครั้งเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ซึ่งทั้งนี้ ดาวดังทีมชาติบราซิล ได้เปิดเผยตอนที่เลิกกับ มาร์เกซีน ครั้งล่าสุดว่าพวกเขาแยกทางกันด้วยดี ซึ่งล่าสุด เนย์มาร์ กลับไปที่บ้านเกิดในช่วงโปรแกรมเกมทีมชาติ และทั้งคู่ก็ไปร่วมงานวิวาห์ของ ซานเด้ เนเกรา นักแข่งรถรายหนึ่งกับ มาริน่า รุย ดาราสาวคนสวย ด้วยกัน

ซึ่งระหว่างไปร่วมงานดังกล่าวนั้น เนย์มาร์ กับ มาร์เกซีน อยู่ใกล้กันบ่อยมาก แถมมีจังหวะหนึ่งที่ทั้งคู่จูบกันบนแดนซ์ฟลอร์ด้วย โดยยังไม่มีแถลงการณ์จากทั้ง 2 ฝั่งถึงเรื่องในครั้งนี้แต่อย่างใด

บอลซุปเปอร์เซฟ ของ “ดาบิด เด เคอา”

“การป้องกันที่มหัศจรรย์ บอลซุปเปอร์เซฟ ของ ดาบิด เค เคอา” นี้คือคำกล่าวของ “โชเซ่ มูรินโญ่” ที่ยกย่องผลงานการป้องกันประตูสำคัญๆ ช่วยให้ทีมมี 1 แต้มหลังจากผ่านพ้นศึก “แดงเดือด” อย่าง “ดาบิด เดเคอา” และจากจังหวะการใช้เท้าเซฟลูกยิงเน้นๆของ “มาติป” ทำให้นักแทงบอลที่ได้วางเดิมพันปีศาจแดงเอาไว้นั้น ปลื้มผู้รักษาประตูมือ 1 ของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากไปกว่าเดิม 2 ถึง 3 เท่าเลยที่เดียว

แล้วจากการเซฟลูกยิงในยิงแดงเดือดนั้น ทำให้ทุกคนบนโลกได้ยกย่องให้เขาคนนี้นี่ละ ที่คือมือ 1 ของโลก เรามาดูกัน ว่า สุดยอดการทำ“ซุปเปอร์เซฟ” ในแมตซ์ไหนที่ เดเคอา นั้นป้อกกันลูกยิงของฝ่ายตรงข้ามได้เหมือนกับว่า ตัวเขาเป็นเหมือนกับ “ซุปเปอร์แมน”

17 ตุลาคม 2559 ศึก “แดงเดือด” มันเดย์ไนท์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ : ลิเวอร์พูล 0-0 แมนฯยู

เกมดังกล่าว เด เคอา ผู้รักษาประตูมือ 1 ของ “ปีศาจแดง” โชว์ซุปเปอร์เซฟ 2 ครั้งซ้อน ในจังหวะแรกที่พุ่งปัดลูกยิงของ ชาน และ จังหวะที่ 2 คือ การบินปัดลูกบอลที่กำลังจะเสียบสามเหลี่ยมของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ จนทำให้ “เดลี่ เมล์” สื่อชื่อดังแห่งเมืองผู้ดีอังกฤษ ถึงขนาดเอามาวิเคราะห์ว่า ลูกยิงของ “ฟิลิเป่ คูตินโญ่” ไกลถึง 31 หลา ความเร็วของลูก 57.8 ไมล์ต่อหนึ่งชั่วโมง และใช้เวลาถึงประตูเพียง 1.1 วินาที แต่กระนั้น “เด เคอา” กระโดดสปริงตัวเซฟเอาไว้ได้แบบเหลือเชื่อ โดยมีการวัดว่าจังหวะเจ้าตัวใช้มือขวาปัดสูงห่างจากพื้นถึง 7 ฟุต และยืดตัวไปปัดยาวถึง 8 ฟุตครึ่ง รวมถึงตรงจุดที่ เด เคอา ยืนปักหลัก สปริงได้ถึง 4 ฟุต ในการบินไปปัด

อาถรรพ์ หรือ อะไร ทำไม มู ถึงไม่เคยชนะ 4 นัดติด

เคยมีคนบอกว่า “ถ้า มูริญโญ่ พาทีมใดชนะติดต่อกันถึง 3 ครั้ง ในการแข่งขั้นครั้งที่ 4 เขาจะไม่ชนะนั่นก็คือ ไม่แพ้ ก็เสมอ” และมันก็เป็นจริงแบบที่มีคนบอกไว้

ทัพปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงคิวบุกไปเยือนทีมช่างปั้นหม้อ สโตค ซิตี้ ซึ่งจัดทีมตังรับอย่างเหนียวแน่เล่นทำเอาแข้งผีแดง ที่พึ่งกลับมาจากการช่วยทีมชาติเก็บแต้ม ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ที่ผ่านมาไม่มาน หืดขึ้นคอกันเลยทีเดียว

โดยประตูขึ้นนำลูกแรก เกิดขึ้นในนาทีที่ 43 เป็นการทำประตูขึ้นนำของทางเจ้าบ้าน ซึ่งไม่เหมือนกับ 3 นัดที่ผ่านมาที่ ทีมแมนยู จะได้ประตูขึ้นในช่วงท้ายของครึ่งแรก แต่ก็ยังไม่ทิ้งฟอร์มเดิม ทำเกมโต้กลับเร็วและยิงประตูตีเสมอได้ในช่วงทดเวลาของครึ่งแรก

เปิดมาในครึ่งหลัง ทัพปีศาจแดง ของ กุนซือมู เปิดเกมบุกก่อน และได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 57 โดยลูกากู แต่ทัพผีก็ดีใจได้ไม่นาน โดนทีมเจ้าบ้านรุกคืบ มาตีเสมอเป้น 2-2 ได้สำเร็จ ในนาทีที่ 63 ต่อมาอีก 10 นาที      กุนซือมู ได้มีความเคลื่อน โดยเปลี่ยนตัวให้ แรชฟอร์ด และ เอเรร่า ออกมาพัก และส่งตัว มาต้า กับ มาร์กซิยาล ลงไปหวังทำเกมสวนกลับ เก็บ 3 แต้มกลับบ้าน แต่ก็ไม่ช่วงอะไร จบเกมทั้ง 2 ทีม เสมอกันไป 2-2

โดยนักวิจารณ์ต่างพากันพูดถึง อาถรรพ์นัดที่ 4 ของกุนซือมู กันไม่น้อย แต่ก็มีหลายความเห็นที่มอง ว่า นักเตะอาจจะเหนื่อยล้า จากการช่วยทีมชาติ จึงทำให้ทัพผีแดง ฟอร์มตก ทำผลงานได้แค่เสมอ แต่คิด ๆ ดูแล้ว เสมอ ได้ 1 คะแนน ก็ยังดีกว่าแพ้ จริงป๊ะ !!!